“ราชินีทับทิมสยาม” (Siam Ruby Queen) ข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง สามารถรับประทานสดได้เลย




ชื่อของ ดร. ทวีศักดิ์ ภู่หลำ อดีตอาจารย์ภาควิชาพืชไร่ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) เป็นที่รู้จักกันดี เพราะมีผลงานมากมาย ที่สำคัญท่านเป็น 1 ใน 5 ของนักปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดระดับโลก ปัจจุบันเป็นเจ้าของ บริษัท สวีทซีดส์ จำกัด


ล่าสุด ดร. ทวีศักดิ์ ภู่หลำ  ได้แสดงให้โลกได้เห็นว่าไทยเราสามารถปรับปรุงและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดก้าวไปอีกระดับ โดยได้พัฒนาข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง ชื่อว่า  “ราชินีทับทิมสยาม” (Siam Ruby Queen) ถือเป็นข้าวโพดหวานสีแดงพันธุ์แรกของโลก ซึ่งเกิดจากแนวคิดการปรับปรุงพันธุ์โดยฝีมือคนไทย ซึ่งมีความโดดเด่นในเรื่องของสีสันสวยสด รวมทั้งรสชาติที่แปลกใหม่ สามารถรับประทานสดได้เลย นอกจากความกรอบในตัวแล้วยังมาพร้อมความหวานอร่อย ในอนาคตจะมีการพัฒนาต่อยอดข้าวโพดหวานสายพันธุ์เดิมข้าวโพดให้มีรสชาติที่หวานอร่อยกว่าเดิมอีกด้วย

ซึ่งการพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดสีแดงครั้งนี้ ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีชีวภาพหรือการตัดต่อยีน ทุกขั้นตอนเป็นการปรับปรุงพันธุ์พืชแบบดั้งเดิม (conventional breeding) ทั้งสิ้น และถือเป็นเจ้าแรกที่ทำข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง ที่ผ่านมามีแต่ข้าวโพดหวานธรรมดาสีแดง-สีม่วง

หลายท่านอาจเข้าใจว่า ข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง “ราชินีทับทิมสยาม”  กับข้าวโพดเหนียวสีแดง เป็นข้าวโพดชนิดเดียวกัน  ซึ่งจริงๆแล้วข้าวโพดทั้งสองเป็นคนละชนิด ซึ่งข้าวโพดหวานพิเศษ “ราชินีทับทิมสยาม” ไม่ใช่ข้าวโพดข้าวเหนียว เพราะมีความพิเศษในตัวคือ ผู้บริโภคสามารถทานสดได้เลย เหมือนทานผลไม้ทั่วไป
ซึ่งข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง “ราชินีทับทิมสยาม”  มีปริมาณสารแอนโทไซยานิน (anthocyanin) สูง ซึ่งสารตัวนี้เป็นตัวเดียวกับที่มีในดอกอัญชัน ที่มีความสามารถในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง (เพราะในข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง มีสารรงควัตถุสีม่วง-แดง) โดยมีจำนวนมากทั้งในเมล็ด ซัง และไหมข้าวโพด ซึ่งนำเมล็ดมารับประทานตามปกติก็ได้ สามารถรับประทานสดได้มีกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายๆ ผลไม้ และมีรสชาติหวานกรอบในรูปแบบสายพันธ์พิเศษจริงๆ
วิธีการปลูกข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง “ราชินีทับทิมสยาม”   สามารถปลูกเหมือนข้าวโพดหวานปกติทั่วไป สิ่งสำคัญคือ ในช่วงอายุ 40-50 วัน ต้องหมั่นตรวจดูการระบาดของแมลง โดยเฉพาะหนอนเจาะลำต้น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หากพบการระบาดให้กำจัดตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตร


เมื่อเกษตรกรกำจัดแมลง หนอนเจาะลำต้น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟเสร็จ ให้ปุ๋ย สูตร 46-0-0 ในอัตรา 10-15 กิโลกรัม ต่อไร่ ซึ่งข้าวโพดหวานสีแดงนี้จะออกดอกภายใน 45 วัน หลังปลูก และจะสามารถเก็บเกี่ยวได้ที่ 65 วัน หลังปลูก

ปัจจุบันเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษสีแดง “ราชินีทับทิมสยาม”   มีจำหน่ายแล้วในราคา กิโลกรัมละ 1,000 บาท และมีขายเป็นซอง ซองละ 500 เมล็ด ในราคา 100 บาท ซึ่งมีราคาสูงกว่าพันธุ์ข้าวโพดหวานทั่วไป ที่ขายกิโลกรัมละ 750 บาท
 แม้ราคาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานพิเศษสีแดงจะแพงกว่า เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดหวานทั่วไป แต่ผลผลิตข้าวโพดชนิดนี้ขายได้ในราคาที่สูงกว่าข้าวโพดหวานสีเหลือง ซึ่งขายได้ฝักละ 10 บาทขึ้นไป ถือว่าพันธุ์นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ให้กับเกษตรกรในการทำต่อยอดอาชีพเกษตรของตนได้ดีขึ้น

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

NAVY SEAL หน่วยรบพิเศษ หน่วยซีล มนุษย์กบ (สัปดาห์นรก)

ประกาศ การรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้าศึกษาในหนักสูตรประกาศนียบัตรผู้ช่วยพยาบาล ประจำปีการศึกษา 2561